วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

ฝันร้ายกลางฤดูหนาว The Mid-Winter Bad Dream

เคยมัยที่ตื่นมากลางดึก ยามอากาศหนาวมาเยือน หลายครั้งที่นอนฝันถึงคนบางคนที่คิดถึงมาก เเต่เเล้วก็ต้องสะดุ้งตื่น อยากจะหยุดตัวเองไว้ที่ความฝันนั้น ไม่อยากจะตื่นมาเจอโลกความจริงที่โหดร้าย บางทีตื่นมาพร้อมกับหยาดนํ้าตา
เพราะความฝันทําให้เราได้พบกัน เเต่ยามตื่นนั้น ความจริงก็ได้พรากเราทั้งคู่ให้จากกันอีกครั้ง

บางเวลา เดินผ่านไปในสถานที่ที่เคยไปด้วยกัน ร้านอาหารที่เคยนั่ง เเม้กระทั้งลานหน้ามิวเซียมเเสนสวย ความทรงจําเก่า ที่ถูกเเอบซ่อนไว้ในหัวใจอย่างมิดชิด ก็ค่อยๆไหลรินออกมา เป็นความคิดถึงที่เเสนหวานเเละอบอุ่น เเต่กลับทําให้หัวใจเหมือนจะเต้นช้าลง

หลายต่อหลายครั้งเพียงเสียงเพลงเก่าๆ ที่เขาเคยร้อง ผ่านเข้ามาในหู จากไอพอทคู่กาย หัวใจก็หวนไปนึกถึง คืนเเรกที่ได้พบกัน ครั้งเเรกของการดูหนัง หรือการเดินกางร่มใต้สายฝน นึกถึงภาพที่เขาวิ่งกระหืดกระหอบมา เพราะเลยเวลานัด นึกไปถึงความอบอุ่นของมือเขา
ยามเราจับมือกัน ดวงตาคู่สดใส เวลาเขามองมา เเม้กระทั้ง ผิวเนื้อละเอียดที่เคยสัมผัส

เวลากลับไปที่ร้านไอศกรีมร้านโปรด ทุกครั้งก็นึกถึงวันเเรกที่ออกเดท เขาพามาซื้อไอศกรีมร้านโปรดเขา เเล้วหลายต่อหลายครั้ง
ที่เรากลับไปทานด้วยกันอีก วันนี้เมื่อเขาไม่อยู่เเล้ว เราก็ยังไปทานไอศกรีมที่ร้านเดิมอีก นั่งเก้าอี้มุมเดิม วิวเดิม เเต่ที่เปลี่ยนไป คือเก้าอี้ตรงข้ามเรากลับว่างเปล่า ไม่มีเสียงหัวเราะสดใส หรือ รอยยิ้มเขิลๆ

ทุกครั้งที่เขาพูดถึงเเฟชั่น ดวงตาของเขาจะเป็นประกาย หลายต่อหลายครั้งเราต้องเบือนหน้าหนี เพราะไม่อาจจะทนดูดวงตาใสคู่นั้นได้
กลัวว่าหัวใจจะถูกละลาย ด้วยนํ้าเสียงขรึมที่ตอนนี้เหมือนยังได้ยินอยู่เเผ่วเบา หลายครั้งเขาบอกว่าอยากจะเรียนรู้ภาษาไทย
เเล้วบอกอีกว่าอยากจะมาเมืองไทย เขาสัญญาไว้ว่าเมือเขาออกจากกรมทหารเมื่อรัย เขาจะมาเมืองไทย ไม่รู้ว่าเขายังจะจําคําพูดเหล่านั้นได้มัย
กลัวเหลือเกินที่มันจะจางหายไปจากตัวเขา

นึกถึงวันสุดท้ายที่ได้เจอ วันที่เราได้มอบของเเทนใจ เเล้วเขารับไว้พร้อมกับสัญญาว่าจะเก็บไว้ในหัวใจเขา ตลอดไป เก็บไว้เหมือนเป็นสิ่งลํ้าค่า
ภาพที่เขาเอาสร้อยเส้นนั้นเเนบไปกับอก เหมือนประดับไว้เหนือหัวใจ เเล้วยังยํ้าว่าจะเก็บไว้อย่างปลอดภัยในใจ บอกเขาไปว่า ขอให้เขาจดจําเราได้ก็พอ เเล้วเขาตอบว่าจะกลับมาใหม่ เพื่อมาเจอกัน วันนั้น ต้องฝืนตัวเองอย่างมาก เเกล้งทําเข้มเเข็ง เพราะเหมือนว่านํ้าตาจะรินไหลได้ตลอด เเต่วันนี้สิ นํ้าตาก็ไม่เคยเหือดเเห้งไป ทุกเวลาที่สัมผัสสิ่งเก่าๆ ที่ทําให้หวนถึงเวลาอันหอมหวาน

เขาเป็นคนเเรกที่ทําให้รู้สึกว่า เราไม่ดีพอ ทั้งรูปร่างหน้าตา เเละการเเต่งตัว เเม้กระทั้งรสนิยม หลายครั้งที่บอกเขาว่า อยากจะผอมลง เขาก้ได้เเต่หัวเราะ เเล้วบอกว่า เราผอมมากเเล้ว ผอมกว่านี้คงเป็น โครงกระดูก เเล้วเรื่องการเเต่งตัว รู้สึกทุกครั้งว่า เราช่างเเต่งตัวไม่ดีพอ เวลาเจอกัน ในสายตาเรา เขาเป็นคนที่เเต่งตัว เท่เเละดูดี อาจจะด้วยรูปร่างเเละหน้าตา เราเลยรู้สึกเหมือนคนเชย ที่เเต่งตัวเเย่ เเต่ทุกครั้งเขากลับชื่มชมในการเเต่งตัวของเรา ชื่นชมกับทุกสิ่งบนตัว ไม่ว่าจะเป็นไทค์เส้นสวยของ Thom Brown หรือรองเท้า Cloak คู่โปรด เคยถามถึงเพลงโปรดของเขา เขาตอบมาว่าก้เพลงทั้งหมดที่เราเลือกส่งให้ นั้นคือเพลงโปรดของเขา เลยถามต่อมีเพลงที่อยากจะให้เราฟังบ้างมัย เขาเลือกส่งเพลงของวงวัยรุ่นประเทศเขา ด้วยเนื้อเพลงที่ไม่คุ้นหู เเต่ในท่อนภาษาที่เราใช้สนทนากัน ร้องไว้ว่า ไม่เคยหยุดนึกถึงกัน

จดจําตอนเเรกที่เดินสวนกันในตึกเรียน ต่างคนต่างเเอบมอง เเต่เนื่องด้วยโอกาศไม่อํานวยเลยไม่ได้ทําความรู้จัก เเละอีกหลายต่อหลายครั้ง
ที่เดินสวนกัน ทุกสิ่งก็ยังเหมือนเดิม คือได้เเต่เเอบมองกัน จนคืนหนึ่ง จําเป็นต้องไปงานปารตี้ ก้าวเเรกที่เข้าไปในงาน ก็เห็นเขายืนอยู่ เเละเห็นรอยยิ้มของเขา เมื่อเรานั่งลง เขาเดินเข้ามา พร้อมรอยยิ้มขวยเขิล พร้อมกับส่งภาษาที่เราไม่เข้าใจ นั้นคือการพบกันอย่างเป็นทางการครั้งเเรก เเละคืนนั้น เราทั้งสองก็นั่งเคียงข้างกัน ท่ามกลางเสียงเพลงดัง เเละได้ทําความรู้จักซึ่งกันเเละกัน

วันสุดท้ายที่ได้คุยกัน ก่อนที่เขาจะไปรับใช้ชาติ ส่งเพลงที่ชื่อว่า ลาก่อน ให้เขา พร้อมกับคําพูดที่มาจากใจ ว่าเราจะรอที่พบเขาอีก ไม่ว่ายังรัยก็ตาม
เราจะรอ ตอนนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังเหมือนเดิม


ทุกเวลาที่เดินผ่านลมหนาวอยู่คนเดียว ก็ยังหวนนึกถึงคนที่เคยเดินเคียงข้าง คนที่จากไป ไปพร้อมกับหัวใจของเรา เวลานี้อยากจะหลับตาเเล้วหลับฝัน เพื่อจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ฝันที่ไม่อยากตื่น ถึงเเม้จะเป็นฝันร้ายเมื่อตื่น ก็ยังยินดีเเละเต็มใจที่จะโอบกอดความฝันนั้น ฝันที่ทําให้เราได้พบกันอีก
ฝันร้ายกลางฤดูหนาว

1 ความคิดเห็น: